[OS] Everytime We Touch: [Gellert Grindelwald/Albus Dumbledore] *SPOIL ALERT*

Title: เพียงสัมผัส (Everytime We Touch)
Pairing: Gellert Grindelwald / Albus Dumbledore
Rate: PG/15+
A/N: เป็นความขี้ชิป+ความพรในจิตใจเลยงอกออกมาเป็นฟิคนี้ค่ะ เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าป๋าเดปป์กับพี่จู๊ดมีsex appealที่ดึงดูดมาก ละสายตาไม่ได้เลย ฮื้อออ ขอบคุณคุณเจเคที่พายเรือนี้ตั้งแต่ในแฮร์รี่พอตเตอร์ด้วยนะคะ ❤

GGAD1

สายลมแผ่วในฤดูหนาวมาเยือนอีกครั้ง ร่างสูงสมส่วนของชายบริติชที่ยืนทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่างบานใหญ่ในโรงเรียนฮอกวอตส์ปล่อยให้สายลมที่พาความหนาวเย็นเข้ามาปะทะกับใบหน้าและเส้นผมหยักศกเล็กน้อยปลิวตามสายลม นัยน์ตาสีฟ้าไม่ต่างจากท้องฟ้าในตอนนี้ส่อแวววูบไหวเล็กน้อยเมื่อสมองฉายความทรงจำในอดีตที่อัลบัส ดัมเบิลดอร์จดจำและตราตรึงมันเอาไว้

 

ภาพของเขาและชายหนุ่มคนหนึ่งที่เขาได้พบเจอที่ก็อดดริก ฮอลโล่ว์ บ้านเกิดของเขา

 

ภาพของเขาที่มีคนๆนั้นอยู่ข้างกาย

 

ภาพของเขาที่แสนมีความสุขเพียงได้พบหน้าคนๆนั้น

 

เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์— นั่นคือชื่อของชายคนนั้น

 

 

อัลบัสถอนหายใจไล่ความฟุ้งซ่านที่ประโคมเข้ามา มือหนาใต้ถุงมือหนังสีดำยกขึ้นมาลูบกับใบหน้าเคล้าหนวดเคราราวกับกำลังกระซิบบอกกับตนเองให้เลิกคิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นเสียที แม้ว่าอัลบัสจะอยากลืมมากขนาดไหนแต่เขาก็ไม่อาจปฏิเสธว่าเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ยังคงมีอิทธิพลกับจิตใจของเขาจนความรู้สึกและความทรงจำเหล่านั้นค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นโซตรวนที่ผูกมัดเขาไว้กับชายคนนั้น

 

 

แม้มันจะค่อยๆกัดกินและทรมานเขาอย่างช้าๆ แต่เชื่อเถอะว่าอัลบัส ดัมเบิลดอร์ต่อต้านเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ไม่ไหวจริงๆ

 

 

ศาสตราจารย์ผู้สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดทิ้งตัวลงนั่งบนโต๊ะตัวยาวที่มีหนังสือและเครื่องมือวางอย่างระเกะระกะ เปรยตามองท้องฟ้ากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาสลับกับมือของตัวเองที่อยู่ใต้ถุงมือหนังก่อนจะค่อยๆบรรจงถอดมันออกมา อัลบัส ดัมเบิลดอร์ค่อยๆหลับตาลงและนึกถึงสัมผัสแสนอบอุ่นที่เจ้าแห่งวาทศิลป์เคยมอบให้เขา

 

เขารู้อยู่แก่ใจว่าทั้งเขาและกรินเดวัลด์ไม่อาจจะกลับมาอยู่เคียงข้างกันได้เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วและความทรงจำแสนวิเศษในหน้าร้อนนั้นจะคอยหลอกหลอนเราทั้งคู่ตราบที่พวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ อัลบัสเคยคิดเล่นๆกับตัวเองว่าเขาจะสามารถรักใครได้อีกนอกจากชายคนนั้นรึเปล่า หรือไม่ หัวใจของเขาก็คงเป็นของเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ตลอดไปจนกว่าลมหายใจของเขาจะสูญสิ้น

 

ปลายนิ้วร้อนที่เปลือยออกจากถุงมือค่อยๆลูบไล้ฝ้ามือของตนเอง แววตาเจ็บปวดแสดงออกในดวงตาสีฟ้าครามคู่นั้นอีกครั้ง ริมฝีปากที่เม้มเป็นเส้นตรงค่อยๆระบายยิ้มราวกับเยาะเย้ยตนเองที่ทรมานไปด้วยความคิดถึงเช่นนี้ ครู่นึงอัลบัสรู้สึกคล้ายมีบางอย่างอย่าค่อยๆบีบรัดหัวใจของเขาให้เจ็บแสบอย่างช้าๆแต่ก็เป็นเขาเองที่ยิ้มรับและโอบกอดความเจ็บปวดเหล่านั้นเอาไว้อย่างจริงใจด้วยความรักเท่าที่ผู้วิเศษคนนึงจะรักได้แม้ว่าอีกฝ่ายจะทรยศเขาและอุดมการณ์ของเราไม่มีวันที่จะกลืนเป็นหนึ่งเดียวกันได้ แต่เขาก็ยืนยันที่จะรักและห่วงหาอีกฝ่ายอยู่ดี

 

อัลบัส ดัมเบิลดอร์นั่งนิ่งๆมองฝ่ามือตัวเองจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ เขาถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะหันไปหยิบถุงมือหนังที่วางไว้ข้างตัวขึ้นมาใส่

 

 

“ถ้ามีเวทย์มนต์สักบทที่สามารถสัมผัสคุณได้แม้ตอนนี้คุณจะอยู่ที่ไหนสักที่ล่ะก็….”

 

วินาทีแรกเขายิ้มเยาะให้กับความฟุ้งซ่านของตัวเอง แต่เขาก็ชะงัก ยกถุงมือหนังขึ้นมาระดับสายตา คิ้วดกสีดำออกนำตาลขมวดเข้าหากันเล็กน้อยในวินาทีต่อมาเมื่อคิดได้ว่าไอเดียที่ผุดขึ้นมานั้นช่างบ้าบิ่น และใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้

 

อัลบัส ดัมเบิลดอร์ค่อยๆเลื่อนถุงมือหนาลงและหยิบไม้กายสิทธิ์ของตนที่วางอยู่อีกฝั่งของโต๊ะขึ้นมา ริมฝีปากที่ล้อมรอบด้วยหนวดเคราร่ายคาถาบางอย่างและใช้ไม้เรียวยาวแตะไปที่ถุงมือหนังก่อนที่มันจะขยับเล็กน้อยและบินว่อนรอบตัวเขาอย่างเฉื่อยช้าและคล่องแคล่ว

 

 

“ไปหาเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์”

 

 

ถุงมือหนังขยับราวกับรับทราบถึงคำสั่งของเจ้าของของตนมันบินขึ้นสูงก่อนจะพุ่งลงมาในระดับสายตาของหนุ่มอังกฤษและโผบินออกนอกหน้าต่างไป

 

จุดมุ่งหมายของมันคือที่ที่กรินเดลวัลด์อยู่

 

 

 

 

 

นัยน์ตาสองสีเหม่อมองออกไปบานกระจกยักษ์ที่มีภาพวิวของเทือกเขาที่ขาวโพลนด้วยหิมะ ปราสาทนูเมนการ์ดในออสเตรียเป็นที่กกดานที่ไม่แย่เท่าไหร่นักในความคิดของเจ้าแห่งศาสตร์มืดเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์

 

ปราสาทแสนหรูหรางดงาม เทือกเขาสีสะอาดที่อยู่ล้อมรอบช่างเป็นบรรยากาศแสนวิจิตรตระการตา ถึงเขาจะรู้สึกว่ามันไม่ได้แย่แต่ความงดงามของสถานที่นี้ก็ไม่ถึงมาตฐานของเจ้าแห่งวาทศิลป์ด้วยซ้ำ— ความจริงแล้วเขาจะอยู่ที่ไหนเขาก็มองหาความงดงามของมันไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

 

 

เพราะความงดงามของก็อดดริก ฮอลโล่ว์ในฤดูร้อนนั้นได้ประทับตราอยู่ในใจเขาไปเสียแล้ว

 

 

 

 

“ท่านกรินเดลวัลด์ครับ มีผู้วิเศษสายเลือดบริสุทธิ์จากลอนดอนต้องการจะพบท่าน”

 

“ลอนดอน? อ่า… ให้เขาเข้ามา”

 

 

เสียงฝีเท้าของผู้ติดตามของเขาไกลออกไปแล้วก่อนจะกลับมาพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ดังกว่าและไม่คุ้นหู เกลเลิร์ตคิดว่านั่นคงเป็นบุคคลที่มาหาเขาจากลอนดอน ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีทองสกาวเซ็ตอย่างดีค่อยๆหันมาสบตากับชายหนุ่มบริติชเลือดบริสุทธิ์ที่วางท่าภูมิฐานก่อนที่เกลเลิร์ตจะเดินเข้าไปหาพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และยื่นมือให้จับเป็นการทักทาย

 

 

“โจนาธาน จอห์น ลีเคนซ์ครับ”

 

“คุณคงรู้จักผมอยู่แล้วใช่หรือไม่ครับท่านสุภาพบุรุษ มิเช่นนั้นคุณคงไม่ถ่อมาหาผมมาถึงที่นี่ ขอบคุณสำหรับการสละเวลาอันล้ำค่าเพื่อมาหาผม”

 

 

ผู้มาเยือนเอื้อมมือจับมือเขาพร้อมยิ้มผยองที่เกลเลิร์ตได้พูดจายกย่องชายคนนั้น เขายิ้มมุมปากเล็กน้อยแม้ไม่ได้สนใจเลยว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครมาจากไหน การพูดด้วยถ้อยคำหวานชื่นเพื่อโน้มน้าวจิตใจของคนอื่นมันเป็นสิ่งที่เขาต้องทำอยู่แทบตลอดเวลาอยู่แล้ว เขามีความเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นผู้วิเศษหรือมักเกิ้ล ทุกคนนั้นต้องการคำหวานที่พูดเพื่อให้ตนรู้สึกดีมากกว่าคำพูดที่เลวร้าย แม้มันจะเป็นคำหวานที่แสนหลอกลวงและซ่อนคมเขี้ยวเอาไว้ก็ตามที

 

 

“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับคุณกรินเดลวัลด์ ที่วันนี้ผมได้มาหาคุณนั้นมีเหตุผลเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น”

 

 

ชายคนนั้นขยับถอยหลังไปหนึ่งก้าว ลอบมองกรินเดลวัลด์ตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความหม่าไม่น้อย ท่าทางของชายตรงหน้าช่างหน้ากลัว มีอิทธิพล มีอำนาจและไม่อาจเดาได้เลยว่าภายใต้ใบหน้าที่ยกยิ้มแสนเป็นมิตรเคล้าเจ้าเล่ห์เทอุบายนั่นจะซ่อนความร้ายกาจขนาดไหนเอาไว้ ชายผู้มาเยือนล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ดด้านในก่อนจะเอาออกมาพร้อมถุงมือหนังสีดำที่ขยับดิ้นรนจะออกจากการจับกุมของชายคนนั้น ใบหน้าที่ยกยิ้มของเกลเลิร์ตกลับกลายเป็นหน้านิ่งทันทีก่อนจะหรี่ตามองอีกฝ่ายเมื่อเขาจำได้ว่าถุงมือคู่นี้เป็นของใคร และเป็นไปตามที่เขาคาด

 

 

“นี่เป็นถุงมือของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ ดูเหมือนเขาจะร่ายคาถาบางอย่างเพื่อส่งไปให้ใครสักคน แต่โชคไม่ดีที่ผมจำมันได้ตอนมันบินผ่านหน้าผมไป ผมว่ามันคงดีไม่น้อยที่คุณจะเป็นคนทำลายมันซะ ในฐานะที่ดัมเบิลดอร์เป็นศรัตรูตัวฉกาจที่แสนน่ารังเกียจและเกลียดชังของพวกเรา”

 

 

เกลเลิร์ตไม่พูดอะไรตอบเพียงแต่นิ่งงันไปชั่วครู่จนชายผู้มาเยือนรู้สึกอึดอัดขึ้นมา มือเรียวแกร่งของเกลเลิร์ตรับถุงมือหนาสีดำที่ขยับไปมาแต่ทันทีที่มันอยู่ในมือเขา ถุงมือหนังสีดำก็หยุดนิ่งราวกับมันส่งถึงมือผู้ตอบรับปลายทางที่เจ้าของมันสั่งเอาไว้เสร็จสิ้น ทุกกิริยาของเจ้าถุงมืออยู่ภายใต้การจับตามองของนัยน์ตาสองสี เกลเลิร์ตยกยิ้มมุมปากก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองชายจากลอนดอนที่ใบหน้าแสดงถึงความกังวลอย่างชัดเจน

 

 

“ผมว่าผมรู้แล้วว่าใครคือคนที่ดัมเบิลดอร์ส่งถุงมือนี้มาให้ คุณสุภาพบุรุษ ผมไม่อาจเถียงคุณได้ว่าดัมเบิลดอร์เป็นศรัตรูตัวฉกาจของเรา”

 

 

เกลเลิร์ตเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำที่แฝงด้วยอำนาจ เดินเข้าใกล้ชายหนุ่มคนนั้นที่ยืนแข็งทื่อเพราะความกลัวก่อนจะกระซิบข้อความบางอย่าง

 

 

“แต่น่ารังเกียจและเกลียดชัง สำหรับผม… มันไม่ใช่”

 

 

กรินเดลวัลด์เอ่ยจบก็เปรยสายตามองผู้ติดตามของเขาที่ยืนอยู่ในห้องตั้งแต่แรกก่อนจะหันหลังกลับไปมองหน้าต่างบานยักษ์อย่างเดิม เพียงแค่นั้นผู้ติดตามของเขาก็หยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาและร่ายคาถาพิฆาตใส่ผู้มาเยือนและมีเพียงแสงสีเขียวน่าพิศวงสว่างวาบฉายอยู่บนแผ่นหลังของเขาอยู่ครู่หนึ่งเท่านั้น

 

 

“จัดการส่งร่างของชายคนนี้กลับไปที่ลอนดอนและบอกกับครอบครัวเขาว่ามีผู้ปราบมารสะกดรอยเขาระหว่างมาที่นี่ อ้อ บอกกับครอบครัวเขาด้วยว่าฉันเสียใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับการจากไปของพี่น้องผู้วิเศษแสนซื่อสัตย์คนนี้และขอสัญญาว่าจะรีบนำอิสระภาพมายังชาวผู้วิเศษโดยเร็วที่สุด”

 

“ครับท่านกรินเดลวัลด์”

 

 

ไม่นานผู้ติดตามแสนซื่อสัตย์ของเขาก็ออกไปพร้อมร่างของชายที่มาจากลอนดอน กรินเดลวัลด์มองถุงมือสีดำสนิทพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนที่ไม่มีใครเคยได้เห็นนอกจากอัลบัส ดัมเบิลดอร์ กลิ่นไอแดดและกลิ่นหอมจางๆจากถุงมือเรียกความรู้สึกต่างๆให้ประทุขึ้นมาพร้อมเหตุผลที่ทำให้เขาตระหนักมากกว่าเก่าว่าทำไมเขาจึงไม่สามารถที่จะไปถล่มประเทศอังกฤษได้ เพราะนั่นเป็นที่ที่อัลบัส ดัมเบิลดอร์อยู่

 

มือเรียวแกร่งปล่อยให้ถุงมือสีดำสนิทค่อยๆลอยขึ้นอยู่ระดับอกของตน มันไม่ได้หนีไปไหนหรือขัดขืนเหมือนตอนมันอยู่กับชายบริติชคนนั้น ตอนแรกที่เขาได้ยินว่าเป็นของอัลบัสที่ส่งให้ใครสักคน คนแรกที่เขานึกขึ้นมาได้คือเจ้าเด็กนิวท์สคาร์มันเดอร์ ครู่นึงจิตใจของเกลเลิร์ตโหมกระน่ำด้วยไฟสีฟ้าแห่งความโกรธ แต่เวลาต่อมาทันทีที่ถุงมือหยุดนิ่งบนมือของเขา ไฟที่โหมกระหน่ำนั้นก็คล้ายถูกสายธารเย็นฉ่ำที่แฝงด้วยความอบอุ่นค่อยๆปลอบประโลมเมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้วคนที่อัลบัสส่งถุงมือมานั้นไม่ใช่ใครที่ไหน

 

 

แต่เป็นเขา

 

 

กรินเดลวัลด์ค่อยๆเลื่อนมือเข้าประสานกับถุงมือสีดำสนิทที่ลอยอยู่ตรงหน้า คล้ายกระแสไฟฟ้าบางอย่างแล่นเข้าสู่หัวใจของเขาจนทำให้ใจกระตุกวูบก่อนที่มันจะค่อยๆซึมซับความอบอุ่นที่เขาโหยหามาตลอด25ปี กลิ่นหอม กลิ่นไอแดดและกลิ่นของหวานต่างๆ กลิ่นของอัลบัสและความอบอุ่นของบุคคลที่เขาอยากเก็บถนอมเอาไว้ไม่เปลี่ยนไปจากตอนนั้นเลยแม้แต่นั้น ยังคงเป็นสัมผัสและกลิ่นที่ทำให้เกลเลิร์ตร้อนลุ่มอยู่ภายใน ครั้งหนึ่งเขาเคยคิดว่าอัลบัสคงจะเกลียดเขาและไม่อยากเจอเขาอีกแล้ว จนมาวันนี้มันทำให้เขาแน่ใจว่าอัลบัสไม่ได้เกลียดเขาและยังคงรู้สึกเหมือนเดิมเช่นเดียวกันกับเขา

 

กรินเดลวัลด์ลูบไล้ปลายนิ้วของถุงมือหนังสีดำด้วยความโหยหาและอาวรณ์เช่นเดียวกับถุงมือสีดำที่ทำเช่นเดียวกัน ก่อนที่เขาจะดึงมันเข้ามาใกล้และประทับจุมพิตเบาๆบนหลังมือนั้นเหมือนครั้งหนึ่งที่เขาเคยทำตอนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่อายุเกิน100ปีในก็อดดริกฮอลโล่ว์

 

เขาดึงถุงมือที่กลายเป็นตัวแทนของฝ่ามือของอัลบัสของเขามาประทับบนใบหน้าให้ความอบอุ่นแล่นไปทั่วร่างกาย เขาไม่รู้ว่าสัมผัสของเขาจะส่งไปถึงอัลบัสหรือไม่ แต่สิ่งที่เขารู้มีเพียงความอบอุ่นของอัลบัสที่โลดแล่นทั่วหัวใจของเขา ก่อนจะรู้สึกตัวอีกทีคือถุงมือสีดำแสนวิเศษนั่นจะกลายเป็นถุงมือหนังธรรมดาไปเสียแล้ว เกลเลิร์ตไม่พูดอะไรต่อมีเพียงสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักเท่านั้นที่จ้องมองถุงมือหนังก่อนจะยกขึ้นมาสูดกลิ่นของอัลบัสด้วยความห่วงหาอีกครั้งและเก็บมันใส่กระเป๋าด้วยใบหน้าที่แย้มยิ้ม

 

 

 

เหตุผลแรกที่ผู้มาเยือนจากอังกฤษคนนั้นต้องตายมันมีอยู่เพียง2เหตุผลเท่านั้น

 

ข้อแรก เพราะมันพูดจาว่าร้ายอัลบัสของเขา เกลเลิร์ตรู้อยู่เต็มอกว่าอัลบัสของเขาเป็นเช่นไรและเขาไม่มีทางเลยที่จะเกลียดชังอัลบัสได้ สิ่งที่เกลเลิร์ตรู้สึกมีเพียงความรัก ความห่วงหาอาวรณ์เคล้าไปกับความเศร้าแสนหมองหม่น

 

และข้อสอง เพราะมันบังอาจแย่งสัมผัสแรกของอัลบัสที่ตั้งใจมอบให้แก่เขาไป และด้วยเหตุนี้มันจึงไม่มีเหตุผลที่เกลเลิร์ตจะไว้ชีวิตมันอีกต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

อัลบัส ดัมเบิลดอร์ เป็นของ เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์เพียงคนเดียวเท่านั้น
เช่นเดียวกับที่เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์จะเป็นของอัลบัส ดัมเบิลดอร์เพียงคนเดียวเช่นกัน

 

 

 

 

 

 

ชายหนุ่มวัยกลางคนเจ้าของเรือนผมสีบอล์นสว่างสะบัดผ้าคลุมและเดินออกไปจากหน้าจากบานนยักษ์และตรงดิ่งไปที่ห้องของตนพร้อมยกยิ้มอย่างมีความสุข

 

 

ดูเหมือนว่าเขาจะมีของไว้ดูต่างหน้าอัลบัส ดัมเบิลดอร์เพิ่มอีกอย่างแล้วสิ

Leave a comment